Home ข้อคิดสอนใจ เหตุที่คนเคยรักกันมานาน เมื่อทิ้งกันไป ทำไมจึงหมดเยื่อใยเร็วปานนั้น

เหตุที่คนเคยรักกันมานาน เมื่อทิ้งกันไป ทำไมจึงหมดเยื่อใยเร็วปานนั้น

คนเคยรักกันมานาน เมื่อทิ้งกันไป ทำไมจึงหมดเยื่อใยเร็วปานนั้น

เหตุที่คนเคยรักกันมานาน เมื่อทิ้งกันไป ทำไมจึงหมดเยื่อใยเร็วปานนั้น

 

คนที่ศีลเสมอกัน พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่าวิธีการดูเนื้อคู่นั้น จะต้องดูความเหมาะสม

ความยั่งยืน หลายสิ่งหลายอย่างต้องพึ่งพาอาศัยกัน

 

การเลือกคู่ครอง ก็เหมือนกับการเสี่ยงดวง บางคนก็สมบูรณ์แบบแต่ก็ไม่คู่ควร บางคนก็แตกต่างกันมากเกินไป

จนไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ แล้วทีนี้เราจะเลือกคู่ครองของเราอย่างไร เรามาทำความเข้าใจวิธีในการเลือกคู่ครอง

ในแบบของพระพุทธองค์ ว่าต้องพิจารณาอะไรบ้าง

 

วิธีดูเนื้อคู่ในแบบที่เหมาะสม โดย ธ. ธรรมรักษ์ อธิบายว่า การที่คนสองคนจะเป็นเนื้อคู่ ก้าวไปสู่การที่จะเป็นคู่ครองกัน

ได้แบบที่ถูกต้องเหมาะสมนั้น พระพุทธองค์ได้ทรงตรัสไว้ว่า “…..ดูก่อนคฤหบดีและคฤหปตานีถ้าภรรยา

และสามีทั้งสองหวังจะพบกันและกัน ทั้งในปัจจุบัน ทั้งในสัมปรายภพ (ชาติหน้า) ไซร้

 

ทั้งสองคนนั้นแลพึงเป็นผู้มีศรัทธาเสมอกัน มีศีลเสมอกัน มีจาคะเสมอกัน มีปัญญาเสมอกัน ภรรยาและสามีทั้งสองนั้น

ย่อมได้พบกันและกัน ทั้งในปัจจุบัน ทั้งในสัมปรายภพ…”

(สมชีวสูตร จ. อํ. (๕๕)ตบ. ๒๑ : ๘๐-๘๑ ตท. ๒๑ : ๗๑ ตอ. G.S. II : ๗๐)

 

การเลือกเนื้อคู่จึงแยกออกเป็น 4 ข้อหลัก

1. ศรัทธาเสมอกัน

หากเรามีความเชื่อและศรัทธาในสิ่งเดียวกัน เราก็จะมีมุมมองในเรื่องเดียวกัน ข้อดีหลัก ๆ ก็คือ

เราจะไม่ทะเลาะเบาะแว้งและอยากเอาชนะคะคานกันและกัน ไม่ถกเถียงเพื่อให้ความเชื่อของเราชนะอีกฝ่าย

 

ทำให้ครองคู่กันอย่างอยู่เย็นเป็นสุข นอกจากเรื่องศรัทธาเสมอกัน อีกอย่างที่สำคัญ คือความชอบและรสนิยม

หากตรงกันแล้ว ก็จะลดความขัดแย้ง ลดเรื่องที่ต้องทะเลาะในแต่ละวันไปได้

 

พระพุทธองค์ได้ชี้ทางสว่างให้กับคนที่จะมาเป็นคู่ครองกัน สองคนนั้นควรต้องมีความเชื่อเสมอกันและไปในทิศทางเดียวกัน

เช่น เชื่อในหลักศาสนาเดียวกัน เพราะถ้าไม่เชื่ออะไรที่เหมือนกัน ก็จะอยู่ด้วยกันแบบชีวิตไม่สงบสุขแน่นอน

 

ทั้งนี้ หากเป็นเนื้อคู่ประเภทคู่เวรคู่กรรมกันแล้ว ทั้งคู่มาที่มาพบกันก็เพราะมีกรรมลิขิต วิบากกรรมได้กำหนดไว้แล้ว

มีเป้าหมายให้คนทั้งคู่มาชดใช้วิบากกรรมของคนทั้งคู่ที่มีต่อกันให้หมดสิ้นกันไป

 

ซึ่งจะนานหรือเร็วก็ขึ้นอยู่กับวิบากกรรมนั้นจะหนักหรือจะเบา เมื่อหมดแล้วก็ต้องแยกย้ายกันไป หรือคู่ที่เลิกรากัน เปลี่ยนคู่บ่อย ๆ

ก็เป็นเพราะอาจจะเป็นเนื้อคู่กันในปางก่อนจริง มาเกื้อกูลกันบ้างในชาติปัจจุบันจริง แต่เมื่อบุญที่ทำร่วมกันมันมีน้อย

ใช้บุญกันไปจนหมดแล้วไม่มีทำเพิ่ม ถึงเวลาก็ต้องแยกย้ายกันไป

 

2. มีศีลเสมอกัน

ศีลเสมอกัน เป็นสิ่งที่คนพูดถึงกันบ่อย ๆ เวลาจะมองหาคู่ครองต้องให้มีศีลเสมอกัน อธิบายง่าย ๆ คือ คนที่รักษาศีล

รู้จักยับยั้งชั่งใจ พากันไปสู่สิ่งที่ดีงาม ก็จะทำให้ชีวิตราบรื่น แต่หากสองคนนั้นมีศีลไม่เสมอกัน ก็เป็นเรื่องยากที่จะอยู่ด้วยกันได้

 

ในเรื่องศีลเสมอกัน ดูง่าย ๆ คนที่ชอบทำบุญ รักษาศีล ถ้าเจอคู่ครองที่ไม่รักษาศีล หรือศีลน้อยกว่า เช่น ชอบการพนัน

ตกเย็นคว้า ข ว ด เ ห ล้ า หรือทำอาชีพที่ไป ฆ่ า สัตว์ ตั ด ชีวิต ก็ย่อมไม่ฟังในสิ่งที่เราพูด เราตักเตือน ทำให้มีเรื่องขัดข้องหมองใจกันง่าย

 

หากเราเจอคู่ที่มีศีลเสมอกันพากันเข้าวัด ทำบุญ ทำแต่ความดี ชีวิตย่อมเจริญรุ่งเรืองไปด้วยกัน

ไม่มีใครฉุดดึงชีวิตอีกฝ่ายให้ต่ำลง

 

3. จาคะเสมอกัน

คำว่า จาคะ มีความหมายว่า การสละสิ่งของและความสุขส่วนตัวเพื่อประโยชน์สุขแก่ผู้อื่น หมายรวมถึงการสละละทิ้งกิเลส

ละความโลภ ความเห็นแก่ตัว ความตระหนี่ ความใจแคบ และการเลิกละนิสัย ตลอดถึงความประพฤติที่ไม่ดี ที่ทำให้เกิดความเสียหาย

 

จะเห็นได้ว่า คนที่มีจาคะย่อมเสียสละเพื่อส่วนรวมได้ มีความเอื้ออาทรต่อความทุกข์ยาก คอยให้ความช่วยเหลือผู้อื่น

ไม่เห็นแก่ตัว หากคู่ของเรามีจาคะไม่เสมอกัน คงเป็นเรื่องยากที่จะทำความเข้าใจว่าเพราะอะไรถึงต้องไปช่วยเหลือคนอื่น

 

คงจะดีไม่น้อย หากเราเลือกครองคู่กับคนที่มีจาคะเสมอกัน เป็นคนใจกว้าง ชอบทำบุญ สามารถช่วยคนอื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน

ได้เหมือน ๆ กัน เมื่อเรารักจะเป็นผู้ให้ก็จะอิ่มอกอิ่มใจที่ได้ให้ แล้วยังสัมผัสถึงความสุขใจ เมื่อมองเห็นผู้รับยิ้มแย้ม พอใจ

ทำให้ความสุขของผู้ให้ทวีเพิ่มขึ้นอีกด้วย

 

4. ปัญญาเสมอกัน

ปัญญาเสมอกันคืออย่างไร พระราชพรหมยานหรือหลวงพ่อฤาษีลิงดำ พระอริยสงฆ์องค์หนึ่งของเรา

ครั้งหนึ่งท่านได้ตอบคำถามให้กับลูกศิษย์ เมื่อลูกศิษย์คนนั้นถามท่านว่า ปัญญาคืออะไร

 

ท่านจึงได้เมตตาตอบไปว่า ปัญญา ความหมายทั่วไปแปลว่าความรู้ที่เกิดขึ้นจากการพินิจพิจารณา

แปลว่าความเฉลียวฉลาดก็ได้ มิใช่รู้อย่างเดียวต้องนำเอาความรู้ที่ได้นั้นมาพิจารณาด้วย มิใช่ฉลาดอย่างเดียว ต้องมีเฉลียวใจด้วย

 

พระพุทธองค์ตรัสไว้ในเรื่องของการที่จะมาเป็นคู่ครองกัน ต้องมีปัญญาเสมอกัน ถ้าใกล้เคียงกันมากก็จะยิ่งมีความสุข

ความเจริญ ทำอะไรก็ประสบผลสำเร็จ เนื่องด้วยความรู้ความเชี่ยวชาญที่ทั้งคู่มีได้เกื้อหนุนกันและกัน

 

ไม่เพียงแต่ศีลเสมอกัน การมีศรัทธาเสมอกัน จาคะเสมอกัน และปัญญาเสมอกัน ก็จะช่วยนำพาให้คู่ครองคิดเห็นในเรื่องเดียวกัน

มีความเชื่อในแบบเดียวกัน ครองคู่กันอย่างมีความสุข ยากต่อการทะเลาะเบาะแว้ง วิ

ธีดูเนื้อคู่และการเลือกคู่ครองที่เหมาะสม จึงจำเป็นต้องอาศัยทั้ง 4 ข้อนี้เป็นสำคัญ

 

ขอขอบคุณ : ปลูกต้นธรรม

Comments are closed.

Check Also

แนวคิด10 ข้อ สอนลูกให้ได้ดี เติบโตไปจะได้ไม่ลำบาก

เรื่องราวสอนใจ เผิงลี่หยวน เธอได้แสดงความคิดเห็น กับเรื … …